โซนตะวันตก-แนวรถไฟฟ้าทำเลทอง! อสังหาฯ 58   

         จากการที่ภาครัฐมีนโยบายเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในช่วงปลายปี 2557 ได้อนุมัติการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่อยู่ในชานเมืองให้สามารถเดินทางมาในใจกลางเมืองได้ง่ายขึ้น ทำให้ที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าและรอบๆ มีการปรับราคาเพิ่มสูงมาก และทำให้ทำเลตามแนวส่วนต่อขยาย กลายเป็นทำเลที่ดีสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

ฉะนั้น ในปี 2558 ทำเลที่มีความโดดเด่น โดยเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย จึงเป็นที่น่าจับตามอง เช่น ทำเลในโซนตะวันตก และ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินปัจจุบันมีผู้พัฒนาโครงการเข้าไปลงทุนตามแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น ทั้งนี้ นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า จากการที่ภาครัฐมีการพัฒนาด้าน Mass Transit โดยทำเลที่มีแนวโน้มการเติบโต ยังคงเป็นทำเลที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า ในปัจจุบัน รวมถึงรถไฟฟ้าสายที่มีการเปิดประมูลในปี 2558

นอกจากนี้ ทำเลที่อยู่ในย่านใจกลางเมือง ราคาที่ดินมีการปรับตัวขึ้นสูงมาก และบางพื้นที่ถูกข้อจำกัดเรื่องขนาดของถนน ทำให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยทำได้ยากขึ้น ส่งผลให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยในย่านใจกลางเมือง จะเป็นที่อยู่อาศัยในระดับ Luxury มีแนวโน้มการเติบโตในปีหน้าเช่นกัน

ด้านทำเลที่คาดว่ายังมีการเติบโตน้อย เป็นทำเลที่อยู่ห่างออกมาจากรถไฟฟ้าบริเวณชานเมืองออกไป

ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในระดับราคาที่ไม่สูงมากนัก ภายใต้แนวคิด "ชุมชนน่าอยู่" อย่าง บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ได้เข้ามาพัฒนาโครงการในบริเวณ ทำเลรัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน ด้วยเช่นกัน โดยเข้าไปพัฒนาโครงการในทำเลดังกล่าวแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน และโครงการลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน

นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียง อย่างทำเล ประชาชื่นพงษ์เพชร แอล.พี.เอ็น. ได้เข้าไปดำเนินการพัฒนาโครงการ จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์ โครงการลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ โครงการลุมพินี วิลล์ ประชาชื่น-พงษ์เพชร 1 โครงการลุมพินี วิลล์ ประชาชื่นพงษ์เพชร 2 อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จากการส่งเสริมการลงทุนภาครัฐ (BOI) ประกอบกับยังมีนโยบายของรัฐที่จะทำการเชื่อมต่อเครือข่ายคมนาคม รถไฟฟ้าบนดินสายสีม่วง (ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่) และโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกบางพลู-แยกไทรม้า, โครงการก่อสร้างอุโมงค์แยกแคราย แก้ปัญหาจุดตัดบนถนนรัตนาธิเบศร์ จะยิ่งผลักดันให้อนาคตเศรษฐกิจของจังหวัดนนทบุรียิ่งเติบโตทวีคูณยิ่งขึ้น

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต รองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าวถึงศักยภาพของทำเลโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก ว่า ปัจจุบันมีศักยภาพการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ กลายเป็นศูนย์รวมของโครงข่ายหลายสาย ทั้งถนนชัยพฤกษ์ตัดใหม่ เชื่อมต่อราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก การขยายถนนราชพฤกษ์เป็น 10 ช่องทาง และสะพานนนทบุรี 1 ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จปี 2558 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ และทางด่วนศรีรัช-วงแหวน ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จปี 2559 รวมไปถึงมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี โครงการคมนาคมต่างๆ นี้ ใช้งบลงทุนรวมถึง 211,147 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการเติบโตในเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกบริเวณแยกบางใหญ่ ทั้งเซ็นทรัล เวสต์เกต ขนาดพื้นที่ 500,000 ตร.ม. ที่จะเปิดบริการปี 2558 และเมกะ 2 ขนาดพื้นที่ 400,000 ตร.ม. ที่กำหนดเปิดตัวปี 2559 ทั้ง 2 แห่งใช้งบลงทุนโครงการละ 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทได้เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในย่านนี้มานานกว่า 22 ปี โดยพัฒนาไปแล้วกว่า 20 โครงการ ปัจจุบันมีที่ดินรอการพัฒนาบนทำเลติดแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ถนนประชาชื่น ถนนติวานนท์ ถนนรัตนาธิเบศร์ ทำเลราชพฤกษ์ ทำเลกาญจนาภิเษกใกล้สถานีรถไฟฟ้าสามแยกบางใหญ่ และปลายสถานีรถไฟฟ้าคลองบางไผ่ บางบัวทอง รวมทั้งทำเลติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวม 1,170 ไร่ สามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมูลค่ารวมกว่า 31,800 ล้านบาท

ด้าน นายรังสรรค์ นันทกาวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง กล่าวว่า การปรับตัวของราคาที่ดินในย่านโซนตะวันตกของกรุงเทพมหานครในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายหลังจากที่ภาครัฐได้มีการเร่งการลงทุนเพื่อขยายระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และการตัดถนนในเส้นทางใหม่ ทำให้ราคาที่ดินในย่านถนนเพชรเกษมปรับตัวอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ราคาที่ดินในย่านถนนพุทธมณฑลมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลย่านศาลายา ที่ได้รับปัจจัยบวกมาจากการเปิดบริการของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลศาลายา ซึ่งจะส่งผลให้ราคาในย่านศาลายาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีการปรับตัวขึ้นกว่า 1 เท่าตัว และส่งผลให้ราคาบ้านและทาวน์โฮมในโซนปิ่นเกล้าและราชพฤกษ์ รวมถึงพุทธมณฑล มีการปรับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

สำหรับการพัฒนาโครงการตามแนวรถไฟฟ้าในส่วนของใจกลางเมือง หรือย่านซีบีดี ในปี 2558 ที่ยังได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยที่มีกำลังซื้อสูง และต่างชาติ ครอบคลุมพื้นที่ สีลม สาทร ลุมพินี สุขุมวิท ตอนต้น-ตอนกลาง ซึ่งคอนโดมิเนียมย่านนี้จะมีราคาสูง เป็นผลจากราคาที่ดินบริเวณนี้ขยับขึ้นสูงมาก

ขณะที่ทำเลย่านพญาไทและราชเทวี เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่ราคาคอนโดมิเนียมขยับแรงขึ้นมาก โดยในรอบ 5 ปี ราคาคอนโดมิเนียมย่านนี้ปรับขึ้นกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะในช่วงหลังจากที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์เปิดให้บริการ เพราะย่านนี้ใกล้แหล่งงานใจกลางเมือง แหล่งช็อปปิ้ง เช่น สยาม และเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวก
 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์