บริการรับฝากขาย-ซื้อ-ให้เช่า คอนโด บ้านมือสอง อาคารและที่ดิน ฟรี โฆษณา ตัวแทนขายคอนโด นายหน้าขายคอนโด ขายคอนโดใกล้รถไฟฟ้า
นายหน้าขายคอนโด ฝากขายขายคอนโด ขายดาวน์คอนโด รับฝากให้เช่าคอนโด นายหน้าขายดาวน์คอนโด
หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ตามข่าวอสังหาฯ
ทรัพย์ฝากขาย
บริการของเรา
ถาม-ตอบ บ่อยๆ
ติดต่อเรา

บริการของเรา

 รับฝากขายคอนโด
 รับฝากให้เช่าคอนโด
 รับช่วยหาซื้อคอนโด

กลุ่มทรัพย์ฝากขาย

 คอนโด
 ห้องเช่าคอนโด
 ขายใบจอง ขายดาวน์
Custom Search
ค้นหาราคาประเมินที่ดิน
โครงการรถไฟฟ้าในอนาคต
 
  ตามข่าวอสังหาฯ
• อสังหาฯปี59 โครงสร้างธุรกิจเปลี่ยน กลุ่มทุนขนาดใหญ่แย่งแชร์ตลาด
คาดการณ์อสังหาฯ ปี 59 โครงสร้างธุรกิจเปลี่ยน กลุ่ม ทุนขนาดใหญ่บุกแย่งแชร์ตลาด เทรนด์ร่วมทุนมากขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยเปลี่ยนจากกลุ่มผู้ซื้อที่หลากหลาย

 รายละเอียด

( 18 January 2016 )

"ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต" คาดการณ์อสังหาฯ ปี 59 โครงสร้างธุรกิจเปลี่ยน กลุ่ม ทุนขนาดใหญ่บุกแย่งแชร์ตลาด เทรนด์ร่วมทุนมากขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยเปลี่ยนจากกลุ่มผู้ซื้อที่หลากหลาย ขณะที่เปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วยดูดซับคอนโดฯ ที่ล้นตลาดได้มาก ส่วนมาตรการอสังหาฯ หนุนตลาด 4 เดือนแรกยอดโอนพุ่ง คาดทั้งปีโต 5%

 

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน )หรือ PS และนายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2558 ว่า ทั้งปีตลาดมีอัตราการเติบโตราว 21% โดยปัจจัยหลักมาจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ออกมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน รวมถึงการที่ผู้ประกอบการต่างออกบิ๊กแคมเปญช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยเฉพาะรายใหญ่ 5 รายแรกของตลาดทำให้กระตุ้นยอดขายได้อย่างมาก

ทั้งนี้ หากพิจาณารายตลาดจะพบว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในแง่ของจำนวนยูนิตเติบโตขึ้นประมาณ 15-20% ในแง่ของมูลค่าเติบโต 29% ส่วนตลาดบ้านแนวราบในแง่ของมูลค่าเติบโตประมาณ 28%

ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดติดลบ 10% แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมติดลบ 20% บ้านเดียว ทาวน์เฮาส์ โต 10% เนื่องจากภาคธุรกิจหลัก คือ ภาคการเกษตรยังไม่ดีขึ้น ทั้งปัญหาภัยแล้ง และราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำทำให้กำลังซื้อลดลง ส่วนตลาดคอนโด- มิเนียมนั้นกลุ่มลูกค้ายังไม่ใช่ความต้องการซื้อที่แท้จริง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกร็งกำไร อีกทั้งยังมีตลาดบ้านแนวราบที่ราคาไม่ต่างกันมากนัก แม้จะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองออกไป แต่การเดินทางยังสะดวก ผู้บริโภคจึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะอยู่คอนโดมิเนียม

สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ตลาดปี 2559 เชื่อว่าจะเติบโตราว 5% เนื่องจากปัจจุบันมีฐานที่ใหญ่โดยโครงสร้างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเปลี่ยนไปจากเดิมส่วนแบ่งตลาด 50-60% จะอยู่ในมือผู้ประกอบการรายใหญ่ 11-12 ราย แต่จากนี้โครงสร้างธุรกิจจะเปลี่ยนไป ดังนี้

1.กลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มาจากธุรกิจอื่น เช่น กลุ่มสิงห์แอสเตท, กลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่เริ่มบุกตลาดอสังหาฯมากขึ้น กลุ่มซีพี กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้มักจะลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในรูปแบบผสมผสาน โรงแรม ค้าปลีก อาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย เป็นต้น

2. แนวโน้มการร่วมทุนของนักลงทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง จากเดิมที่จะลงทุนรายเดียว อาทิ แสนสิริร่วมกับบีทีเอส กรุ๊ป นอกจากการร่วมทุนกลุ่ม กลุ่มทุนภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีการร่วมทุนกับกลุ่มทุนในต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งแนวโน้มการร่วมทุนนี้จะจะเริ่มเห็นมากขึ้นในอีก 3-5 ปีข้างหน้า

3.โครงสร้างผู้ซื้อเปลี่ยนไป ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดจะมีกลุ่มผู้ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าเข้ามาในตลาดมากขึ้น หลังจากที่มีการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ เออีซี ซึ่งจะทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยจากชาวต่างชาติและความต้องการเช่าอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยซับซ้อนขึ้น อาทิ การออกแบบมาเพื่อปล่อยเช่าลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจะมีกลุ่มนัก เกร็งกำไรที่เป็นชาวต่างชาติเข้ามาในตลาดอีกด้วย

4.การขายเปลี่ยนไป จากเดิมพัฒนาเฉพาะ ที่อยู่อาศัยก็จะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ในรูปแบบผสมผสาน เพื่อสร้างจุดขายหรือสร้างแลนด์มาร์ก

5.การเปลี่ยนสัญญาเช่าจากเดิม 30 ปีเป็น 99 ปี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของการลงทุนอย่างมาก และจะมีที่ดินในทำดีดีๆ ออกมาสู่ตลาดมากขึ้น นักลงทุนต่างชาติกล้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่มากขึ้น เพราะระยะเวลาเช่าคุ้มค่าต่อการลงทุน

6.สถานการณ์การขายจะคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า โดยเฉพาะการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง จะเกิดความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ดูดซับคอนโดมิเนียมในทำเลดังกล่าวที่เหลืออยู่ในตลาดจำนวนมากออก ไปได้ เนื่องจากความสะดวกสบายในการเดินทาง เปลี่ยนจากค่าเช่าเป็นผ่อนซื้อบ้านเป็นของตนเอง ตลาดทาวน์เฮาส์ จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาในธุรกิจมากขึ้นโดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ราคาแพงใจกลางเมือง ส่วนบ้านเดี่ยวจะเป็นเซกเมนต์ ไฮเอ็นด์

7.การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยและการรับรู้รายได้จะเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 4 เดือนสุดท้าย ถึงเมษายน 2559 ที่จะหมดอายุมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถระบายสต๊อกออกไปได้อย่างมาก คอนโด- มิเนียมในต่างจังหวัดผู้ประกอบการจะโหมแคมเปญแรงๆ ออกมาเพื่อให้ทันกับมาตรการและเร่งระบายสต๊อก ซึ่งผู้บริโภคที่ซื้อในช่วงนี้จะได้ประโยชน์อย่างมาก

"มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ถือว่าได้ผลอย่างมากพิจารณาได้จากยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาโตเกือบเท่าตัว โดยในส่วนของพฤกษายอดโอนคอนโดฯ เพิ่มจากประมาณ 3,500 ล้านบาท/เดือน เป็น 6,500-7,000 ล้านบาท/เดือน และจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งปีโต ไม่ต่ำกว่า 5%" นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า แม้ว่าจะมีกลุ่มทุนรายใหญ่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง แต่ไม่กลัวเพราะการที่พฤกษาเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาด ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลานาน มีความเชี่ยวชาญในตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดี สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าหรือหาทำเลใหม่ในการลงทุนเป็นอย่างดี ส่วนกลุ่มทุนขนาดใหญ่แม้ไม่จำกัดในเรื่องเงินลงทุน แต่ยังไม่มีความชำนาญในตลาดอสังหาฯ และมักมีข้อจำกัดในการลงทุน เน้นการลงทุนโครงการใหญ่ซึ่งต้องหาทำเลที่มีศักยภาพมากๆ จึงจะพัฒนาได้

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา


  Copyright © 2012 Brokerdd.com. All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online